ลงทุนระยะสั้น ลงทุนระยะยาว เลือกอย่างไรให้เหมาะกับคุณ?

การลงทุนมีทั้งแบบ ลงทุนระยะสั้น ลงทุนระยะยาว มือใหม่อย่างเรา ควรเลือกอย่างไร ให้เหมาะสม? แน่นอนว่า แทบทุกความต้องการ รวมถึงความใฝ่ฝัน ล้วนมีเงินเป็นส่วนหนึ่ง บางคนต้องการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน บางคนต้องความมั่นคงทางการเงินในอนาคต และเมื่อเป้าหมายต่างกันทำให้ส่งผลต่อการวางแผน การลงทุนที่แตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน แต่จะเลือกอย่างไรให้ใช่กับตัวคุณที่สุด เรามีคำตอบให้กับคุณ

ลงทุนระยะสั้น ลงทุนระยาว แตกต่างกันอย่างไร

ก่อนเริ่มลงทุนในสินทรัพย์ใดก็ตาม  การศึกษาถึงข้อดี ข้อที่ต้องรู้  เป็นเรื่องที่ต้องทำก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้คุณได้เลือกการลงทุนในแบบที่เหมาะสมกับ สถานะการเงิน และ เป้าหมายของตัวเอง

ลงทุนระยะสั้น จุดเด่น และเรื่องที่ต้องรู้

การลงทุนระยะสั้น และ การลงทุนระยะยาว ไม่ได้มีกำหนดเวลาตายตัวว่าควรเป็นเท่าใด หลายๆ แห่งอาจจะให้คำนิยามที่แตกต่างกันไป

อย่างไร ก็ตาม อาจพูดได้ว่า การลงทุนระยะสั้น คือการ ลงทุนตั้งแต่ 1 วัน จนถึง 1 ถึง 3 ปี และการลงทุนระยะยาวคือการลงทุน ตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป

การลงทุนระยะสั้น นั้น มีเป้าหมายการลงทุนส่วนใหญ่เป็นการลงทุนที่เน้นสภาพคล่องสูงหรือต้องการพักเงินเพื่อนำเงินไปลงทุนหรือนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นต่อไป จึงมุ่งหวังผลกำไรหรือผลตอบแทนแค่เพียงมากกว่าเงินฝาก สินทรัพย์การลงทุนในระยะสั้นมักจะเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ สลากออมทรัพย์ระยะไม่เกิน 3 ปี เป็นต้น

แต่มีผู้ลงทุนบางส่วนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของตลาด เป็นการทำกำไรอย่างรวดเร็ว หรือที่เราเรียกว่า “การจับจังหวะการลงทุน” ซึ่งการลงทุนในลักษณะเช่นนี้มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนต้องมีความรู้และความชำนาญในการวิเคราะห์ตลาดและติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด รวมถึงมีความพร้อมทางการเงินและสามารถรับความผันผวนของตลาดได้ เช่นการลงทุนในหุ้น อนุพันธ์ เป็นต้น

สินทรัพย์สามารถลงทุนระยะสั้นนั้น มีได้หลากหลายรูปแบบตามที่ได้กล่าวข้างต้น การตัดสินใจว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ใดนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ มากมาย เช่น วัตถุประสงค์ของการลงทุน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของผู้ลงทุน อายุของผู้ลงทุน เป็นต้น

ตัวอย่างสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนระยะสั้นได้

สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

• สลากออมทรัพย์ ระยะไม่เกิน 3 ปี
• กองทุนรวมตลาดเงิน
• กองทุนรวมตราสารหนี้

สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง

• หุ้น
• อนุพันธ์
• ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ข้อเสียของการลงทุนระยะสั้น

ในกรณีที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

• ผลตอบแทนที่ได้เป็นจำนวนน้อย

ในกรณีที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง

• มีความเสี่ยงจากความผันผวนที่ต้องแบกรับสูง อาจขาดทุนได้เป็นจำนวนเงินที่สูง
• จำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
• หากมีการทำธุรกรรมบ่อยครั้ง ทำให้มีค่าธรรมเนียมสูง

ลงทุนระยะยาว จุดเด่น และเรื่องที่ต้องรู้

การลงทุนระยะยาว เปรียบเสมือนการวางแผนให้กับอนาคต เพราะเป็นการลงทุนที่ใช้ระยะเวลา  สามารถลงทุนได้ทั้งในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้หากต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ต้องเป็นไปด้วยความเข้าใจและการเชื่อมั่นในสิ่งที่ได้ลงทุนไป  และมีการศึกษามาแล้วว่า ผลตอบแทนระยะยาวของสินทรัพย์ที่เข้าไปลงทุนนั้น มีแนวโน้มเติบโต ผลตอบแทนที่ได้ เช่น ส่วนต่างของราคาในระยะยาว และเงินปันผลที่ได้ระหว่างทาง เป็นต้น

ถึงแม้ว่าในการลงทุนระยะยาวจะไม่ต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา แต่การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเสมอ ทางเลือกที่อาจดูเหมาะสม กับการลงทุนระยะยาว คือการกระจายความเสี่ยง ลงทุนในหลากหลายแบบ และความไม่วิตกกังวล ในเวลาที่เกิดความผันผวนในระยะสั้น

ตัวอย่างสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนระยะยาวได้

สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

• สลากออมทรัพย์ ระยะเกิน 3 ปี
• กองทุนรวมตลาดเงิน
• กองทุนรวมตราสารหนี้
• อสังหาริมทรัพย์
• ทองคำ

สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง

• หุ้น
• กองทุนรวมหุ้น
• กองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก
• สินทรัพย์ดิจิทัล

ข้อเสียของการลงทุนระยะยาว

• อาจทำให้เสียโอกาสในการลงทุนในรูปแบบอื่น เนื่องจากเงินถูกนำไปลงทุนในระยะยาวในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเป็นเวลานาน
• ใช้เวลานานในการที่จะได้รับผลตอบแทนกลับมา
• ผู้ลงทุนไม่อาจคาดการณ์ความเสี่ยงในระยะยาวได้อย่างแม่นยำ
• ต้องอดทนต่อความผันผวนในระยะสั้น

การลงทุน แบบไหนที่เหมาะกับคุณ

ก่อนตัดสินใจ ว่าควรลงทุนระยะสั้น หรือ ระยะยาว อยากให้คุณลองพิจารณาตัวเอง ใน 4 ประเด็น ดังนี้คือ

เวลา

ในที่นี้ หมายถึงทั้งเวลาในการติดตาม การวิเคราะห์ตลาด และเวลาที่ต้องการลงทุน เพราะการลงทุนสองแบบนี้ มีความแตกต่างด้านเวลาอย่างชัดเจน การลงทุนระยะสั้น เน้นทำกำไรในเวลาอันสั้น (หากลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง) แต่ต้องใช้เวลาอย่างใกล้ชิด ในการติดตามความผันผวน กลับกัน การลงทุนระยะยาว ใช้เวลาในการติดตามไม่เข้มข้นเท่า แต่ก็ใช้เวลานานกว่า ในการทำกำไร

เงิน

เงินทุนที่ก้อนใหญ่ บวกกับความเข้าใจในตลาด อาจทำกำไรให้กับคุณได้ดี ในการลงทุนระยะสั้น ซึ่งหมายถึงการสามารถรับมือได้อย่างดี หากต้องแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วด้วย หากมีเงินทุนที่มากพอ

แต่การลงทุนระยะยาว อาจจะสามารถแบ่งเงินลงทุนเป็นรอบๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวนของตลาด เนื่องจากมีเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวนั่นเอง เช่นเทคนิคที่เราได้เห็นกันบ่อยๆ อย่างการ DCA ที่ไม่จำเป็นต้องลงเงินก้อนใหญ่ทีเดียว แต่เป็นการสะสมไปเรื่อยๆ

เป้าหมายทางการเงิน

เป้าหมายทางการเงินที่ต่างกัน ทำให้การเลือกการลงทุน ก็แตกต่างกันไปด้วย หากต้องการความมั่นคงในระยะยาว ก็อาจเหมาะกับการลงทุนระยะยาว แต่ถ้าต้องการพักเงินในระยะสั้นโดยมีความเสี่ยงต่ำ ทำกำไรอย่างรวดเร็วเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน  หรือนำไปต่อยอดการลงทุนแบบอื่นๆ การลงทุนระยะสั้น ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ

ความเสี่ยง

การเข้าใจในความเสี่ยงในการลงทุน เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่เลี่ยงไม่ได้

เพราะการลงทุนนั้น มีความเสี่ยงเสมอ การศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงทำให้เห็นภาพรวมอย่างชัดเจน ก่อนตัดสินใจลงทุนนั่นเอง

ไม่จำเป็นต้องลงทุนเพียงอย่างเดียวเสมอไป

ทั้งนี้ทั้งนั้น การลงทุนที่ดี อาจไม่ได้หมายถึง การเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่หมายถึงการวางแผนการลงทุน ที่เหมาะสม และตอบโจทย์ชีวิตของคุณได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะลงทุนกี่รูปแบบก็ตาม

______________________________________________________________________________________________

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนรวมผสม sawakami และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ซาวาคามิ (ประเทศไทย)

เว็บไซต์ : https://www.sawakami.co.th

Customer Service โทร 02-081-0525 ถึง 26

Line Official : @‌sawakamith https://line.me/R/ti/p/@704veymq

Facebook Official : Sawakami Asset Management Thailand https://www.facebook.com/sawakami.th/