หุ้นไทย vs หุ้นต่างประเทศ ข้อดี ข้อเสีย ที่ควรรู้

25/07/2567
หุ้นไทย vs หุ้นต่างประเทศ ข้อดี ข้อเสีย ที่ควรรู้

หุ้นไทย vs หุ้นต่างประเทศ ข้อดี ข้อเสีย ที่ควรรู้

    การลงทุนในหุ้นเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทยหรือหุ้นต่างประเทศ ซึ่งทั้ง 2 ประเภท ต่างมีข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนจะเริ่มลงทุนในหุ้น มาทำความเข้าใจในรายละเอียดของ หุ้นไทย และ หุ้นต่างประเทศ ไปพร้อมกันก่อน

 

หุ้นไทย คืออะไร?

หุ้นไทย คือความเป็นเจ้าของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนักลงทุนจะได้เป็นเจ้าของบริษัทตามสัดส่วนผู้ถือหุ้น การลงทุนในหุ้นไทยเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนชาวไทยเนื่องจากมีความคุ้นเคยกับบริษัทและภาวะเศรษฐกิจในประเทศ

 

ข้อดีของการลงทุนในหุ้นไทย

1. คุ้นเคยกับข้อมูล: นักลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทและเศรษฐกิจไทยได้ง่าย

 

2. ลดความเสี่ยงความผันผวนตลาดหุ้น: มี ราคาสูงสุด (Ceiling) และ ต่ำสุด (Floor) ของหุ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้นักลงทุนรายย่อย หรือนักลงทุนมือใหม่ที่พึ่งเข้าตลาด

 

3. การกำกับดูแลที่เข้มงวด: ตลาดหลักทรัพย์ไทยมีกฎระเบียบและการกำกับดูแลที่เข้มงวด ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในความโปร่งใสของบริษัท

 

ข้อเสียของการลงทุนในหุ้นไทย

1. เสี่ยงจากปัจจัยภายในประเทศ: หุ้นไทยมักได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจภายในประเทศ

 

2. ความหลากหลายของอุตสาหกรรมมีน้อย: การลงทุนในหุ้นไทยอาจมีข้อจำกัดในความหลากหลายของอุตสาหกรรม เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ

 

3. ความเสี่ยงของการกระจุกตัวในหุ้นไทย : นักลงทุนควรมีการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน ไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ  เพื่อไม่ให้มีการลงทุนเพียงสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงอย่างเดียว

 

หุ้นต่างประเทศ คืออะไร?

หุ้นต่างประเทศคือหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ การลงทุนในหุ้นต่างประเทศช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนและลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายในประเทศ และมีตัวเลือกของหุ้นที่หลากหลายขึ้น

 

ข้อดีของการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ

1. กระจายความเสี่ยง: การลงทุนในหุ้นต่างประเทศช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนที่กระจุกตัวในตลาดหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว

 

2. โอกาสในการเติบโต: หุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะในตลาดที่กำลังเติบโตมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

 

3. เข้าถึงอุตสาหกรรมที่หลากหลาย: นักลงทุนสามารถเข้าถึงหุ้นในอุตสาหกรรมที่หลากหลายและทันสมัย

 

ข้อเสียของการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ

1. ข้อมูลและภาษา: นักลงทุนอาจพบปัญหาในการเข้าถึงข้อมูลและการสื่อสารเนื่องจากอุปสรรคด้านภาษาและข้อมูลที่จำกัด

 

2. ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียม: การลงทุนในหุ้นต่างประเทศมักมีค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมสูงกว่าการลงทุนในหุ้นไทย

 

3.ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: การลงทุนในหุ้นต่างประเทศมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รวมถึงสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจของต่างประเทศที่ไปลงทุนก็อาจจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนเช่นกัน

 

 

หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศเหมาะกับใคร?

การลงทุนในหุ้นไทย เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความคุ้นเคยกับข้อมูลและมีการติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศอย่างใกล้ชิด

 

ขณะที่การลงทุนในหุ้นต่างประเทศเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและมีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลต่างประเทศ รวมถึงรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

 

ลงทุนเน้นหุ้นไทย ไปกับ กองทุนรวมผสม SAWAKAMI

นโยบายหลักของกองทุนรวมผสมซาวาคามิ (Sawakami Mixed Fund) คือ ลงทุนมุ่งเน้นหุ้นไทยเป็นหลัก คัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี หรือคาดว่าจะมีการเติบโตในอนาคต โดยคำนึงถึงสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาวประกอบ แบ่งเป็นหน่วยลงทุน 2 ชนิด ได้แก่

 

1. หน่วยลงทุนชนิดสะสมมูลค่า (SW-A) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนจากส่วนต่างการลงทุน (Capital Gain) และสะสมผลประโยชน์จากการลงทุน (Total Return)

 

2. หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (SW-SSF) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินระยะยาวและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

 

ข้อดีของ SAWAKAMI

- เริ่มต้นลงทุนเพียง 1,000 บาท แนะนำการลงทุนแบบ DCA

 

- ส่งเสริมแนวความคิดการลงทุนระยะยาวที่แท้จริง โดยลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในฐานะผู้ถือหุ้น

 

- มุ่งเน้นลงทุนในกิจการที่ผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณค่าต่อสังคมและมีศักยภาพเติบโตต่อในอนาคต หรือ ลงทุนในกิจการที่มีความต้องการในปัจจุบันและมีแนวโน้มโอกาสเติบโตในอนาคต

 

- ไม่มีค่าธรรมเนียมซื้อหน่วยลงทุน ได้ลงทุนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย (ศึกษาค่าธรรมเนียมอื่นๆ ในหนังสือชี้ชวน)

 

- เปิดเผยข้อมูลการลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยทุกคน ผ่าน Fund Report ทุกเดือน

 

- มีผู้แนะนำการลงทุนคอยให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มการเปิดบัญชีไปจนถึงการลงทุน

 

- ได้รับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายใน 5 วันทำการหลังจากวันทำรายการขายคืน

 

*กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนฯ ในกองทุนรวม SSF ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนตามที่กรมสรรพากรกำหนด

 


 

สนใจศึกษาข้อมูลกองทุนได้ที่ https://www.sawakami.co.th/fund/5

ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมและหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ซาวาคามิ (ประเทศไทย) เว็บไซต์ www.sawakami.co.th

หรือ Customer Service โทร 02-081-0525 ถึง 26 หรือ Line Official @sawakamith https://line.me/R/ti/p/@704veymq

Facebook Official : Sawakami Asset Management Thailand https://www.facebook.com/sawakami.th 

แชร์ :

020-810-525

Facebook

Line

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด นโยบายการใช้คุกกี้