Active Fund กับ Passive Fund ต่างกันยังไง? เลือกแบบไหนดี?
Active Fund กับ Passive Fund ต่างกันยังไง? เลือกแบบไหนดี?
Active Fund กับ Passive Fund มักจะเป็นคำที่นักลงทุนที่สนใจศึกษาเรื่องกองทุนรวมน่าจะได้ยินไม่มากก็น้อย แต่ว่าคุณควรเลือกลงทุนแบบไหน? บลจ.ซาวาคามิ (ประเทศไทย) ขอพาคุณไปทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Active Fund กับ Passive Fund พร้อมข้อดีและข้อเสีย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด
Active Fund คืออะไร?
Active Fund คือกองทุนที่มีผู้จัดการกองทุนทำหน้าที่บริหารจัดการและเลือกสินทรัพย์ต่างๆ ในเชิงรุก เพื่อเป้าหมายผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง (Benchmark) หรือที่เรียกว่าการพยายามเอาชนะตลาด เช่น การลงทุนให้ได้อัตราผลตอบแทนมากกว่า SET Index เป็นต้น โดย Active Fund มีแนวทางการวิเคราะห์เลือกหลักทรัพย์ 2 แบบ คือ
1. Top-Down Analysis คือการวิเคราะห์จากภาพรวมเศรษฐกิจระดับมหภาค ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรม แล้วจึงมาวิเคราะห์พื้นฐานสินทรัพย์นั้นๆ ว่าเหมาะสมกับการลงทุนหรือไม่
2. Bottom-Up Analysis เป็นวิธีตรงกันข้ามกับแบบแรก คือการเลือกที่ตัวหลักทรัพย์ก่อนที่จะวิเคราะห์ปัจจัยด้านอุตสาหกรรมและภาพรวมเศรษฐกิจ
ข้อดีของ Active Fund
- สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดในบางสถานการณ์
- มีผู้จัดการกองทุนเลือกสินทรัพย์เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง (Benchmark)
ข้อเสียของ Active Fund
- ค่าธรรมเนียมและค่าบริหารกองทุนสูงกว่า Passive Fund
- อาจเกิดความเสี่ยงจากการบริหารจัดการที่ผิดพลาดได้ เช่น การตัดสินใจเลือกสินทรัพย์ที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาด เป็นต้น
Passive Fund คืออะไร?
Passive Fund หรืออีกชื่อคือ Index Fund คือกองทุนรวมที่เน้นการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงมากที่สุด เช่น หาก SET Index + 5% กองทุน Passive Fund ต้อง + 5% หรือบวกลบแล้วใกล้เคียงกับ SET Index ให้มากที่สุด เป็นต้น วิธีสังเกตว่ากองทุนนั้นเป็น Passive Fund หรือไม่ นักลงทุนสามารถสังเกตได้จากชื่อกองทุน ซึ่งจะบอกได้ว่ากองทุนนั้นใช้ดัชนีอ้างอิงใด เช่น กองทุน Passive Fund ที่ใช้ดัชนี SET50 อ้างอิง ก็มักจะมีคำว่า SET50 อยู่ในชื่อกองทุนด้วย นอกจากนี้นโยบายการลงทุนจะถูกแจ้งอยู่ในหนังสือชี้ชวนด้วยเช่นกัน
ข้อดีของ Passive Fund
- ความเสี่ยงน้อยกว่า เนื่องนโยบายการลงทุนที่ไม่พยายามเอาชนะตลาด แต่เน้นการสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนีอ้างอิงแทน
- ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า Active Fund
- เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ เพราะไม่มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ที่ซับซ้อน สามารถทำความเข้าใจและติดตามสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น
ข้อเสียของ Passive Fund
- ผลตอบแทนอาจไม่สูงเท่า Active Fund ในบางสถานการณ์
- ในสถานการณ์ที่ตลาดมีความผันผวน Passive Fund อาจไม่สามารถสร้างโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงได้เหมือน Active Fund
Active Fund vs Passive Fund แบบไหนเหมาะกับคุณ
Active Fund เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นและรับความเสี่ยงสูงได้ เพราะกลยุทธ์การลงทุนมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอขึ้นอยู่กับผู้จัดการกองทุน
Passive Fund เหมาะกับผู้ที่มองหาการลงทุนในระยะยาว ไม่ต้องการติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิดมากนัก และต้องการลดความเสี่ยงจากพยายามเอาชนะดัชนีอ้างอิง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณสามารถเลือกลงทุนได้ทั้ง Active Fund และ Passive Fund โดยแบ่งการลงทุนออกเป็น 2 ส่วนตามกลยุทธ์ Core-satellite Portfolio คือ:
- การลงทุนส่วนหลัก (Core Portfolio) - เน้นการลงทุนเพื่อเป้าหมายในระยะยาว เน้นความเสี่ยงต่ำและกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
- การลงทุนส่วนเสริม (Satellite Portfolio) - เน้นการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น และลงทุนระยะสั้นจนถึงกลาง ใช้การจับจังหวะซื้อขาย โดยเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้รับผลดีจากสภาวะตลาดและเศรษฐกิจภาพรวมในช่วงกรอบเวลานั้นๆ
ลงทุนตามเป้าหมายทางการเงินในกองทุนรวมผสมซาวาคามิ
เลือกลงทุนกับบลจ.ซาวาคามิ (ประเทศไทย) ที่มีการบริหารจัดการเงินของลูกค้าอย่างมืออาชีพโดยผู้จัดการกองทุน ทำให้ช่วยลดความกังวลของนักลงทุนมือใหม่ กองทุนรวมผสมซาวาคามิ มุ่งหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีอ้างอิง มีหน่วยลงทุน 2 ชนิด ได้แก่
1. หน่วยลงทุนชนิดสะสมมูลค่า (SW-A) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนจากส่วนต่างการลงทุน (Capital Gain) และสะสมผลประโยชน์จากการลงทุน (Total Return)
2. หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (SW-SSF) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินระยะยาวและประสงค์ใช้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ข้อดีของ Sawakami Mixed Fund
- เริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 1,000 บาท แนะนำการลงทุนแบบ DCA
- ไม่มีค่าธรรมเนียมซื้อหน่วยลงทุน ได้ลงทุนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย (ศึกษาค่าธรรมเนียมอื่นๆ ได้จากหนังสือชี้ชวน)
- ส่งเสริมแนวความคิดการลงทุนระยะยาวที่แท้จริง โดยลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในฐานะผู้ถือหุ้น และ มุ่งเน้นลงทุนในกิจการที่ผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณค่าต่อสังคมและมีศักยภาพเติบโตต่อในอนาคต หรือ ลงทุนในกิจการที่มีความต้องการในปัจจุบันและมีแนวโน้มโอกาสเติบโตในอนาคต
- มีเพียงกองทุนเดียวทำให้ทุกคนในองค์กรสามารถทุ่มเทให้กับกองทุนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และผลประโยชน์ของลูกค้าและผลประโยชน์ของบริษัทเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
- เปิดเผยข้อมูลการลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยทุกคน ผ่าน Fund Report ทุกเดือน
- มีผู้แนะนำการลงทุนคอยให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มการเปิดบัญชีไปตลอดการลงทุน
คำเตือน *กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนฯ ในกองทุนรวม SSF ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนตามที่กรมสรรพากรกำหนด
สนใจศึกษาข้อมูลกองทุนได้ที่ www.sawakami.co.th/all-fund
ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมและหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ซาวาคามิ (ประเทศไทย) เว็บไซต์ www.sawakami.co.th
หรือ Customer Service โทร 02-081-0525 ถึง 26 หรือ Line Official @sawakamith https://line.me/R/ti/p/@704veymq
Facebook Official : Sawakami Asset Management Thailand https://www.facebook.com/sawakami.th
page title:
Active Fund กับ Passive Fund คืออะไร ต่างกันยังไง เลือกแบบไหนดี?
meta description:
Active Fund กับ Passive Fund คุณควรเลือกลงทุนแบบไหน? ซาวาคามิขอพาคุณไปทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Active Fund กับ Passive Fund พร้อมข้อดีและข้อเสีย ก่อนตัดสินใจเลือก
แชร์ :